การฉีดโบท็อกซ์ หรือฉีดโบลดริ้วรอยเป็นสิ่งที่ทุกคนอาจจะได้ยินกันบ่อยๆ เพราะว่าในปัจจุบันนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่สามารถช่วยทำให้หน้าตึง ช่วยลดเลือนริ้วรอย และส่งผลให้หน้าดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้ ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะสงสัยว่าการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะช่วยให้หน้าตึงจริงหรือไม่

ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะมาไขข้อสงสัยว่าฉีดโบท็อกซ์ทำให้หน้าตึงจริงไหม ต้องฉีดที่จุดไหนถึงจะเหมาะสมกับใบหน้า และฉีดไปแล้วเห็นผลนานแค่ไหน พร้อมแนะนำว่าควรฉีดโบลดริ้วรอยที่ไหนดีไปจนถึงวิธีการเตรียมตัว และดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้การฉีดโบลดริ้วรอยมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนมากที่สุด

ทำไมต้องฉีดโบลดริ้วรอย

ฉีดโบลดริ้วรอย คือ การฉีดโบท็อกซ์หรือสาร Botulinum Toxin A เป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่มีคุณสมบัติในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้การทำงานของกล้ามเนื้อลดลง และเมื่อฉีดในบริเวณต่างๆ บนใบหน้าที่มีริ้วรอย เช่น หางตา หว่างคิ้ว หรือหน้าผาก ก็จะส่งผลให้ริ้วรอยตามจุดต่างๆ นั้นลดเลือนลงนั่นเอง

โบท็อกซ์ช่วยอะไรได้บ้าง

หลายๆ คนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าการฉีดโบลดริ้วรอยสามารถช่วยลดริ้วรอยในบริเวณต่างๆ บนใบหน้าได้ แต่รู้หรือไม่ว่า การฉีดโบท็อกซ์นั้นยังสามารถช่วยในเรื่องอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนี้

ช่วยลดขนาดกราม ทำให้ใบหน้ามีความเรียว ดูสมส่วนมากขึ้น
ช่วยกระชับผิวบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าและรูขุมขนมีความกระชับมากขึ้น
ช่วยลดขนาดน่อง ทำให้ขนาดเนื้อบริเวณน่องดูเล็กลง ส่งผลให้น่องเรียว และขาดูเล็กลง
ช่วยลดอาการปวดต่างๆ ทำให้อาการปวดในบริเวณต่างๆ น้อยลง เช่น ปวดไมเกรน ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือปวดหลัง เป็นต้น
ช่วยลดเหงื่อ ทำให้เหงื่อที่ออกบนผิวหนังลดน้อยลง เช่น เหงื่อบริเวณรักแร้ หรือฝ่ามือ เป็นต้น

มาดูสาเหตุของริ้วรอย

ปัญหาริ้วรอย เป็นปัญหาที่ไม่ได้พบแค่ในผู้ที่มีอายุเยอะเท่านั้น และเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย เพราะว่าริ้วรอยนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัย ดังนี้

ปัจจัยภายใน

ปัจจัยภายในที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า มีดังนี้

อายุที่เพิ่มมากขึ้น เกิดจากการที่ร่างกายมีการสร้างคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ผิวยืดหยุ่นน้อยลง ไม่เต่งตึง และไม่ชุ่มชื้นเหมือนตอนอายุยังน้อย ส่งผลให้เกิดริ้วรอย และมีความหย่อนคล้อยได้ง่าย
การแสดงสีหน้า เกิดจากการที่แสดงสีหน้าในท่าซ้ำๆ เช่น ขมวดคิ้ว เลิกคิ้ว หรือยิ้ม เป็นต้น จนทำให้ผิวในบริเวณต่างๆ บนใบหน้าเกิดริ้วรอย
สภาพผิวแห้ง เกิดจากการที่ผิวมีความแห้ง และเมื่อมีการขยับใบหน้า หรือแสดงสีหน้า ทำให้เกิดริ้วรอยเล็กๆ ขึ้นมาได้ง่ายกว่าปกติ

ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอกที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า มีดังนี้

พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดจากการที่ร่างกายได้รับการฟื้นฟูจากการนอนหลับได้ไม่ดีเท่าที่ควร และส่งผลให้โกรทฮอร์โมนหลั่งน้อยลง ทำให้ริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่าย และเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
แสงแดด หรือมลภาวะ เกิดจากการที่แสงแดดหรือมลภาวะไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นน้อยลง จึงไปกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้
สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ เกิดจากการที่สารในบุหรี่นั้นทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง และแอลกอฮอล์ทำให้ผิวแห้งหรือขาดน้ำ จึงส่งผลให้ผิวไม่ยืดหยุ่น ไม่ชุ่มชื้น ทำให้เกิดริ้วรอยตามมาในที่สุด

ริ้วรอยมีกี่แบบ

สำหรับริ้วรอยที่เกิดบนใบหน้าที่สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดโบลดริ้วรอยนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ ริ้วรอยร่องตื้นและริ้วรอยร่องลึก โดยแต่ละแบบนั้นจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

ริ้วรอยร่องตื้น เป็นริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น แสงแดด มลภาวะ หรือสภาพแวดล้อม ที่ส่งผลให้สภาพผิวแห้ง และทำให้เกิดริ้วรอยร่องตื้น
ริ้วรอยร่องลึก เป็นริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อมีการขยับหรือเกิดการหดตัว ทำให้ผิวหนังแท้และผิวหนังกำพร้าดึงเข้าหากัน จนเกิดรอยพับหรือรอยย่นจนเห็นเป็นริ้วรอย โดยริ้วรอยรูปแบบนี้มักจะพบในผู้ที่มีการแสดงสีหน้าบ่อยๆ เช่น ขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก ยักคิ้ว หรือยิ้ม เป็นต้น

ยี่ห้อโบท็อกลดริ้วรอยที่แนะนำ พร้อมวิธีตรวจสอบ

ยี่ห้อโบท็อกลดริ้วรอยที่แนะนำ พร้อมวิธีตรวจสอบ

ยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้สำหรับฉีดโบลดริ้วรอยในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกใช้หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยยี่ห้อโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่แนะนำมีทั้งหมด 7 ยี่ห้อ ดังนี้

Aestox

ยี่ห้อ Aestox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์ ออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพธ์เร็ว มีโอกาสดื้อโบท็อกซ์ค่อนข้างน้อย สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย ลิฟต์กรอบหน้า ลดกราม หรือฉีดแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น ลดน่อง หรือลดเหงื่อ เป็นต้น

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Aestox เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
ตรวจสอบโดยการแสกน QR Code บนกล่อง
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่องและที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

Allergan

ยี่ห้อ Allergan เป็นโบท็อกซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์ ออกฤทธิ์แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด มีโอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย สามารถอยู่ได้นานมากถึง 6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า ปรับรูปหน้า และฉีดแก้ปัญหาเฉพาะจุด

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Allergan เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูว่ามีซีลใสป้องกันการเปิดติดอยู่หรือไม่
ตรวจสอบโดยดูเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่องและที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

Botulax

ยี่ห้อ Botulax เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี มีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 98.7 เปอร์เซ็นต์ ตัวยากระจายได้กว้าง ออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพธ์เร็ว ราคาไม่แพง มีโอกาสดื้อโบท็อกซ์ค่อนข้างน้อย สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลิฟต์กรอบหน้า หรือลดขนาดกราม

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Botulux เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมที่เขียนว่า “Cosma Medical”
ตรวจสอบโดยการแสกน QR Code บนกล่อง
ตรวจสอบโดยดูเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่องและที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

Dysport

ยี่ห้อ Dysport เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ มีความบริสุทธิ์สูง ตัวยากระจายได้กว้าง ฉีดแล้วหน้าไม่ตึงเกินไป เห็นผลลัพธ์ชัดเจน มีโอกาสดื้อโบท็อกซ์ค่อนข้างน้อย สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย ลิฟต์กรอบหน้า และฉีดแก้ปัญหาเฉพาะจุด

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Dysport เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูวิธีเปิดกล่องที่ต้องเปิดจากด้านหน้าเท่านั้น
ตรวจสอบโดยดูเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่องและที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

Hugel

ยี่ห้อ Hugel เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูง 99.5 เปอร์เซ็นต์ ออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพธ์เร็ว ราคาไม่แพง มีโอกาสดื้อโบท็อกซ์ค่อนข้างน้อย สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลดกราม และฉีดแก้ปัญหาเฉพาะจุด

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Hugel เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูวิธีเปิดกล่องที่ต้องเปิดจากด้านข้างเท่านั้น
ตรวจสอบโดยดูเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่องและที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

Nabota

ยี่ห้อ Nabota เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูง 98.7 เปอร์เซ็นต์ มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ทำให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพเร็ว มีโอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า หรือฉีดแก้ปัญหาเฉพาะจุด

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Nabota เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูว่ามีเอกสารกำกับภาษาไทยหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูสติ๊กเกอร์โฮโลแกรม 2 จุด ได้แก่ บนกล่อง (มีคำว่า Void if removed original) และบนขวด (มีคำว่า DM)
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่อง และที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

Xeomin

ยี่ห้อ Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมนี มีความบริสุทธิ์สูงมากที่สุดในบรรดาโบท็อกซ์ มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ XTRACT Technology ทำให้ยากระจายตัวดี ไม่ตึงเกินไป สามารถฉีดในเคสที่มีการดื้อโบท็อกซ์ได้ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดริ้วรอย หรือแก้ปัญหารูปหน้าทุกรูปแบบ

โดยวิธีการตรวจสอบว่ายี่ห้อ Xeomin เป็นโบท็อกซ์แท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบโดยดูว่ามีซีลใสป้องกันการเปิดติดอยู่หรือไม่
ตรวจสอบโดยดูว่ามีเอกสารกำกับภาษาไทยหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูเลข Lot. ที่กล่องและที่ขวด 2 จุดว่าตรงกันหรือไม่
ตรวจสอบโดยดูผลึกยาที่ก้นขวด เพราะจะต้องทำการผสมน้ำเกลือก่อนดูดยาออกมา

ฉีดโบลดริ้วรอยที่จุดไหนดี

การฉีดโบลดริ้วรอยนั้นสามารถฉีดได้ตามจุดต่างๆ บนใบหน้าที่ต้องการลดริ้วรอยได้ โดยจุดที่มักจะนิยมฉีดและเป็นจุดฉีดที่ปลอดภัย มีดังนี้

ฉีดโบลดริ้วรอยที่หน้าผาก

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่หน้าผาก เป็นการฉีดโบลดริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือการแสดงสีหน้าซ้ำๆ เช่น การเลิกคิ้ว การขมวดคิ้ว หรือการแสดงสีหน้าที่ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากเกิดการขยับ จนทำให้เกิดริ้วรอยในบริเวณดังกล่าว ซึ่งการฉีดโบที่หน้าผากนั้นจะช่วยให้ผิวหน้าผากเต่งตึงและริ้วรอยตื้นขึ้น โดยส่วนใหญ่จะฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณนี้ประมาณ 20-30 ยูนิต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

ฉีดโบลดริ้วรอยที่ระหว่างคิ้ว

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่ระหว่างคิ้ว เป็นการฉีดโบลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำๆ อย่างการขมวดคิ้ว จนทำให้เกิดริ้วรอยในบริเวณดังกล่าว ซึ่งการฉีดโบที่ระหว่างคิ้วนั้นจะช่วยยับยั้งการหดตัวและช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้น โดยส่วนใหญ่จะฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณนี้ประมาณ 15-25 ยูนิต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

ฉีดโบลดริ้วรอยที่หางตา

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่หางตา เป็นการฉีดโบลดริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น มีการแสดงสีหน้าซ้ำๆ หรือบริเวณหางตามีการหดเกร็งซ้ำๆ เป็นเวลานาน จนทำให้เกิดริ้วรอยในบริเวณดังกล่าว ซึ่งการฉีดโบที่หางตาจะช่วยให้ผิวที่หางตามีการขยับน้อยลง และช่วยให้ผิวเต่งตึงจนเห็นริ้วรอยตื้นขึ้น โดยส่วนใหญ่จะฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณนี้ประมาณ 15-25 ยูนิต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

ฉีดโบลดริ้วรอยที่ใต้ตา

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่ใต้ตา เป็นการฉีดโบลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยี้ หรือการแสดงสีหน้าซ้ำๆ เช่น การยิ้ม หรือหัวเราะ ซึ่งการฉีดโบที่ใต้ตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตามีการคลายตัว และริ้วรอยก็จะดูจางลงตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่จะฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณนี้ประมาณ 2-4 ยูนิต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

ฉีดโบลดริ้วรอยที่ร่องแก้ม

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่ร่องแก้ม เป็นการฉีดโบลดริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มมีความหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย ซึ่งการฉีดโบที่ร่องแก้มนั้นจะช่วยให้ริ้วรอยร่องตื้นจางลงได้ แต่ถ้าหากผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มเป็นริ้วรอยร่องลึก ควรทำการฉีดฟิลเลอร์แทน

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอย

ก่อนที่จะเข้ารับการฉีดโบลดริ้วรอยนั้นควรจะเตรียมตัวให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยวิธีการเตรียมก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย มีดังนี้

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ เช่น วิธีตรวจสอบโบแท้
เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และทำการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
งดกินยากลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟนหรือแอสไพริน เป็นต้น
งดกินวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต อย่างน้อย 2 สัปดาห์
งดสครับหน้าหรือทำหัตถการในบริเวณที่จะฉีด อย่างน้อย 3 วัน
หากมีโรคประจำตัวให้ทำการปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดทุกครั้ง

การดูแลและปฏิบัติตัวหลังฉีดโบลดริ้วรอย

หลังจากฉีดโบลดริ้วรอยนั้นก็ควรดูแลตัวเองให้ดี เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและให้โบท็อกซ์อยู่ได้นาน โดยวิธีดูแลและปฏิบัติตัวหลังฉีดโบลดริ้วรอย มีดังนี้

ขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด 1-2 ครั้งทันทีหลังจากฉีด
งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชั่วโมง
งดลูบ คลึง หรือนวดในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์
งดการทำกิจกรรมที่กระตุ้นให้หน้าแดงอย่างน้อย 3 วัน
งดกินอาหารรสจัด และของหมักดอง
งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ฉีดโบลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน

ฉีดโบลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังจากฉีดโบลดริ้วรอยกี่วันเห็นผลนั้นจะเริ่มเห็นผลประมาณ 5 วันหลังจากฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนประมาณ 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ โบท็อกซ์จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวและการปฏิบัติตัวด้วย

ฉีดโบลดริ้วรอย ควรฉีดที่ไหน

การฉีดโบท็อกซ์หรือฉีดโบลดริ้วรอยนั้น ควรเลือกฉีดกับสถานที่หรือคลินิกที่สามารถเชื่อถือได้ มีความสะอาด ปลอดภัย เครื่องมือทันสมัย ฉีดโบลดริ้วรอยราคาสมเหตุสมผล และที่สำคัญ คือ ทำการฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์ และสามารถตรวจสอบโบท็อกซ์ได้ อย่างที่ Dr.Vii เป็นคลินิกที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไข้ ดังนี้

คลินิกได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข
ประเมินและรักษาโดยแพทย์ทุกเคส
คุณหมอวิมีความชำนาญและประสบการณ์กว่า 10 ปี
มีการศึกษาเทคนิคการศัลยกรรมที่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
มีทีมติดตามอาการและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน LINE Official Account
สามารถส่งภาพประเมินได้หลายช่องทาง Our Social Media : https://linktr.ee/dr.vii
ชมรีวิวจริง https://drviiclinic.com/reviews

การฉีดโบลดริ้วรอยนั้นสามารถช่วยให้ผิวมีความเต่งตึง ส่งผลให้ริ้วรอยตามจุดต่างๆ บนใบหน้าดูลดเลือนหรือจางลงได้ โดยส่วนใหญ่มักจะนิยมฉีดในบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา หรือส่วนอื่นๆ ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยโบท็อกซ์ และหากอยากจะฉีดโบลดริ้วรอยให้เห็นผลนั้นควรจะดูแลตัวเองให้ดี เพราะว่าการฉีดโบลดริ้วรอยนั้นมีข้อห้ามที่ไม่ควรทำ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลให้โบสลายเร็วขึ้นกว่าเดิมได้ ดังนั้น จึงควรเตรียมตัวและดูตัวเองให้ดี ทั้งก่อนและหลังฉีด เพื่อให้การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ฉีดโบลดริ้วรอย ควรฉีดตรงจุดไหน เห็นผลนานไหม ทำที่ไหนถึงจะดี